ปวงชนชาวไทยอยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมากว่า 70 ปี ซึ่ง Jarm.com เชื่อว่าทุกคนต่างรับรู้และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างมาก

และคุณจะเคยล่วงรู้บ้างหรือไม่ว่า ครั้งหนึ่งในอดีตกาลเมื่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี ยังคงมีชีวิตอยู่ ท่านได้เคยนิมิตรและทำนายดวงชะตาของประเทศไว้ทุก ๆ รัชสมัย โดยเฉพาะเจาะลึกสมัยของพ่อหลวง ร.9 ของปวงชนชาวไทยที่เราจะได้นำมาให้ทุกท่านได้อ่าน ณ ตอนนี้ จงตอบด้วยหัวใจของท่านเถิด ว่ามีข้อใดไม่จริงบ้าง...

แผ่นดิน "ถิ่นกาขาว" ในรัชสมัยรัชกาลที่ 9 ก่อนผ่านเข้าสู่ยุค "ชาวศิวิไล" ในรัชกาลที่ 10
ที่ปวงชนชาวไทยกำลังก้าวเข้าสู่ห้วงผลัดแผ่นดิน

“หลังจากที่เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ โตฯ พรหมรังสี ได้มรณภาพลงเมื่อวันเสาร์แรม 2 ค่ำเดือน 8 ซึ่งตรงกับวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2415”
ตอนเที่ยงคืน เช้าวันรุ่งขึ้นนายอาญาราช (อิ่ม) ศิษย์ก้นกุฏิของเจ้าประคุณสมเด็จเข้าไปเก็บกวาดในกุฏิของท่าน ขณะทำความสะอาดพื้นกุฏิ นายอาญาราชได้พบเศษกระดาษชิ้นหนึ่งซุกอยู่ใต้เสื่อเป็นลายมือของเจ้าประคุณสมเด็จเขียนสั้นๆ โดยสังเขป เป็นคำทำนายชะตาเมือง 10 กาลยุค มีความว่า “มหากาฬ ภาณยักษ์ รักมิตร สนิทธรรม จำแขนขาด ราษฎร์จน ชนร้องทุกข์ ยุคทมิฬ ถิ่นกาขาว ชาววิไล”
รัชกาลที่ ๙ ถิ่นกาขาว คนไทยเห่อตามพวกฝรั่ง ทั้งแฟชั่น เครื่องแต่งกายเพลงร้อง อะไร ๆ ก็ฝรั่งทั้งนั้น ถึงจะดี (จริงหรือไม่ปวงชนชาวไทยเอ๋ย?)
และนักพูดบางท่านยังถอดความในอีกมุมมองว่า กาขนมันก็ดำวันยังค่ำ แต่ คนไทยเราไม่เจียมบอดี้ หรือไม่เจียมตนน่ะซิครับ ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนสมัยรัชกาลที่ ๖ ไม่ผิดเพี้ยนเลยคือมีการนิยมของนอก มีการใช้จ่ายที่เกินตัว ฟุ้งเฟ้อ เห่อเหิม อยากได้อะไรเป็นต้องได้ ขนาดลงทุนเป็นหนี้เป็นสินเขาดอกเบี้ยสูงขนาดไหนก็เอา เห็นผิดเป็นชอบ เห็นดำเป็นขาว เหมือนอีกาที่ขนดำก็อยากจะทำให้มันขาว คราวนี้แจ่มชัดหรือยังว่า ทำไมเมืองไทยถึงเป็น "ถิ่นกาขาว" หรือ"ถิ่นตาขาว" ไม่รู้ลองไปถามไอ้พวกฝรั่ง " IMF " ดู แล้วจะรู้ไปถึงก้นบี้งหัวใจ
อีกอย่างหนึ่ง คนยุคนี้ อาจจะเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว และไม่ยอมต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ถึงขนาดเรียกได้ว่า "ขี้ข้าฯตาขาว" หรือ "ขี้ขลาดตาขาว" ก็อาจจะเป็นได้เช่นกันครับ
ก่อนจะเข้าสู่ รัชกาลที่ ๑๐ ชาววิไล คือยุคที่บ้านเมืองของไทยเจริญรุ่งเรืองอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้เหตุการณ์ยังมาไม่ถึง
และยุคสมัยของรัชกาลอื่น ๆ ก็ตรงตามนิมิตรของพระคุณเจ้าทั้งหมด
รัชกาลที่ ๑. ผ่าน พระเจ้าตากสิน ขึ้นครองราชย์สมบัติ
รัชกาลที่ ๒. ท่านว่างจากศึกสงครามก็หันมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้พระสงฆ์ค้นคว้าพระธรรมวินัยรวบรวมกันเป็นการใหญ่
รัชกาลที่ ๓. ท่านมีหัวคิดริเริ่มหาเงินมาสร้างสรรค์บ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้
รัชกาลที่ ๔. ท่านสนิทธรรม ก็เพราะพระราชาองค์นี้ทรงผนวชถึง ๒๗ พรรษา มีความคล่องตัวในพระธรรมวินัย ทรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน และยังมีความสนิทสนมกับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) อย่างยิ่ง เป็นคู่บารมีกัน
รัชกาลที่ ๕. จำแขนขาด เราเห็นได้ชัดมาก เพราะเราต้องเสียดินแดนไปหลายครั้งหลายหน โดยพระองค์ทรงยอมเสียแขนขาดีกว่าเสียตัวทั้งหมด คือยอมเสียผืนแผ่นดินบางส่วน เพื่อรักษาเอกราชของชาติไว้
รัชกาลที่ ๖. เป็นโจร เพราะทรงใช้จ่ายเงินในท้องพระคลังจนหมดสิ้น แต่อาตมาเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นนักชาตินิยม มีพระปรีชาสามารถปลุกใจประชาชนให้รักชาติบ้านเมือง เช่นมีเพลงบทหนึ่งทรงพระนิพน์ไว้ว่า “ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำร่ำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย” ทรงเป็นนักประชาธิปไตย จึงได้ทำทุกอย่างให้บุคคลอื่นเห็นว่า พระองค์ไม่ทรงถือพระองค์ เช่น แสดงมหรสพ เล่นโขนกับข้าราชบริพาร
ยิ่งกว่านั้นพระองค์ยังสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่ปรากฏแก่ชาวโลก โดยส่งทหารไปช่วยสงครามโลกครั้งที่ ๑. จึงจำเป็นต้องใช้เงินมาก แม้จะใช้เงินมาก แต่ประโยชน์ก็เกิดแก่ประเทศชาติอย่างหนัก
รัชกาลที่ ๗. นั่งทนทุกข์ พระองค์เสวยราช สมบัติอยู่ในเกณฑ์ตกอับพอดี เงินในท้องพระคลังก็หมดมาแต่รัชกาลก่อน พระองค์จึงทรงประทับอยู่บนกองทุกข์ต้องดุลข้าราชการออกเป็นจำนวนมาก เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาพระองค์ต้องจำพระทัยสละราชสมบัติ ไปนั่งทนทุกข์อยู่ต่างแดน จนสิ้นพระชนม์
รัชกาลที่ ๘. ยุคทมิฬ บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ ๒. ประชาชนตกอยู่ในสภาพบ้านแตก อดอยากยากแค้นแสนสาหัส พระมหากษัตริย์ก็ถูกลอบปลงพระชนม์จนสวรรคต
รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว เราก็เห็นแล้วว่าฝรั่งมาอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ล้วนแต่คนผิวขาวทั้งนั้น
สำหรับรัชกาลต่อไป คือ รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล หมายความว่า บ้านเมืองเราได้ผ่านยุคเข็ญมาแล้ว จะได้ประสบความเจริญรุ่งเรืองกันเสียที เราจะมั่งคั่งสมบูรณ์เหมือนนานาอารยะประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย
ธ ดวงใจไทยทั้งชาติ
****************************************ปลาย******************************* เรียนทั้งหมดของผู้เข้าชมที่รัก! ผมขอบคุณมากสำหรับการเยี่ยมชมบล็อกของฉัน! ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อหาเนื้อหาที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดสำหรับทุกท่าน! กรุณามีความโชคดี! จาก Puthsasna!!! :)
0 comments: